คอลลาเจน คืออะไร ทำไมถึงมีหลายประเภท

รู้กันหรือไม่ว่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคอลลาเจนที่รับประทานกันอยู่ในทุกวันนี้ ทำไมถึงได้ให้ประโยชน์กับร่างกายได้หลากหลายด้าน ซึ่งนอกจากจะโดดเด่นในเรื่องการช่วยบำรุงผิวพรรณให้กระชับ เต่งตึงแล้ว แต่คอลลาเจนยังมีส่วนสำคัญต่อการบำรุงเล็บ เส้นผม และการเสื่อมของไขข้อได้อีกด้วย เรียกได้ว่าคอลลาเจน มีคุณประโยชน์ที่ครอบคลุมและหลากหลายทีเดียว 

ด้วยลักษณะของคอลลาเจน ที่มีคุณสมบัติเป็นเส้นใยโปรตีนชนิดหนึ่งที่ทำหน้าที่คล้ายกาว ช่วยเกาะยึดส่วนต่าง ๆ ในร่างกายเอาไว้ และเป็นองค์ประกอบหลักที่พบได้ตามผิวหนัง เส้นผม เล็บ ข้อต่อ กล้ามเนื้อ และหลอดเลือด จะเห็นได้ว่าคอลลาเจนเป็นสิ่งที่ร่างกายสามารถผลิตได้ตามธรรมชาติ 

  แต่สำหรับบางคนที่ยังไม่รู้ว่าคอลลาเจนคืออะไร หาได้จากอาหารชนิดไหน และทำไมถึงสามารถรับประทานเพิ่มเติมเข้าไปได้ ซึ่งในความเป็นจริงนั้น คอลลาเจนสามารถพบได้จากอาหารที่มีโปรตีนเป็นส่วนประกอบ เช่น เนื้อสัตว์ ปลา ธัญพืช ผัก และผลิตภัณฑ์จากนมทุกรูปแบบ และเมื่อรับประทานเข้าไปก็จะย่อยสลายในร่างกายและก่อตัวใหม่จนกลายเป็นคอลลาเจน แต่จริง ๆ แล้วคอลลาเจนไม่ได้มีเพียงชนิดเดียวเท่านั้น แต่ยังสามารถหาได้จากแหล่งอื่น ๆ ทั้งภายในร่างกายของเราและจากแหล่งธรรมชาติ เราลองไปทำความรู้จักกับคอลลาเจนประเภทต่าง ๆ กันให้มากขึ้นกันดีกว่า 

ชนิดของคอลลาเจน

คอลลาเจน คือเส้นใยโปรตีนประเภทหนึ่งที่พบได้ในร่างกาย โดยมีส่วนประกอบร้อยละ 6 ของน้ำหนักตัว หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของโปรตีนทั้งหมดในร่างกาย อีกทั้งยังเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของโครงสร้างผิว กระดูก ข้อต่อ และหลอดเหลือด แต่เมื่อคอลลาเจนในร่างกายลดลง การทำงานของคอลลาเจนก็จะเสื่อมสภาพตามไปด้วย เพราะแบบนี้การทานอาหารเสริมเพื่อเพิ่มคอลลาเจนจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยในปัจจุบันคอลลาเจนได้ถูกค้นพบมากกว่า  28 ชนิด แต่ที่ถูกค้นพบบ่อยที่สุด จากส่วนต่าง ๆ ภายในร่างกายของเราจะมีอยู่เพียง 5 ชนิด ได้แก่

  • คอลลาเจนไทพ์วัน (Collagen Type I) คือ คอลลาเจนที่พบมากถึง 90% เรียกได้ว่าเป็นคอลลาเจนเกือบทั้งหมดในร่างกาย มีหน้าที่ช่วยเสริมสร้างกระดูก ผนังหลอดเลือด เอ็นและเอ็ดยึดกล้ามเนื้อ รวมไปถึงผิวหนัง กระจกตา และเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน นับเป็นคอลลาเจนชนิดที่เหนียวและแข็งแรงมากที่สุด
  • คอลลาเจนไทพ์ทู (Collagen Type II) คือ คอลลาเจนที่พบได้มากที่สุดในกระดูกอ่อน เช่น ส่วนหู จมูก กระดูกซี่โครง และหลอดลม
  • คอลลาเจนไทพ์ทรี (Collagen Type III) คือ คอลลาเจนที่มักจะพบร่วมกับคอลลาเจนประเภทที่ 1 พบได้ในผิวหนัง กล้ามเนื้อ และผนังหลอดเลือด
  • คอลลาเจนไทพ์โฟว์ (Collagen Type IV) คือ คอลลาเจนที่พบใน Basal Lamina และ Basement Membrane ในส่วนของ Epithelium-secreted Layer
  • คอลลาเจนไทพ์ไฟว์  (Collagen Type V) คือ คอลลาเจนที่พบได้ในผม และรกของเด็กทารก 

คอลลาเจน Tripeptide Dipeptide Peptide ต่างกันอย่างไร

จะเห็นได้ว่าคอลลาเจนนั้นมีอยู่ด้วยกันหลากหลายประเภท แต่เราอาจจะคุ้นเคยหรือเคยได้ยินชื่อของคอลลาเจนไดเปปไทด์กับไตรเปปไทด์กันมาบ้าง เพราะถูกนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์หลาย ๆ ชนิด แต่คอลลาเจนทั้งสองประเภทนี้แตกต่างกันอย่างไร สามารถค้นพบได้จากอาหารประเภทใดบ้าง และจะมีประโยชน์ที่แตกต่างกันแค่ไหน เราลองไปทำความรู้จักกับคอลลาเจนทั้งสองประเภทนี้ให้ดียิ่งขึ้นกันดีกว่า 

คอลลาเจนเปปไทด์ (Collagen Peptide)

เป็นการสกัดคอลลาเจนให้อยู่ในรูปของสายกรดอะมิโนที่สั้นขึ้นกว่าปกติ เพราะโดยทั่วไปแล้วคอลลาเจนเปปไทด์จะมีโมเลกุลที่ใหญ่กว่า 300,000 ดาลตัน ทำให้ดูดซึมได้ยาก จึงต้องใช้เทคโนโลยีเช่น Hydrolysis มาย่อยให้เล็กลงและดูดซึมได้ง่ายยิ่งขึ้น นอกจากนี้คอลลาเจนชนิดนี้ยังหาได้จากธรรมชาติอย่างปลาทะเล ซึ่งดีต่อร่างกาย 

ในส่วนของคอลลาเจนเปปไทด์จากปลาทะเลจะมีอะไรบ้างที่เป็นส่วนประกอบ? สำหรับคอลลาเจนประเภทนี้ จะมีกรดอะมิโน ไกลซีน โพรลีน และไฮดรอกซีโพรลีน ที่สามารถดูดซึมนำไปสร้างเป็นคอลลาเจนภายในร่างกายได้อย่างดี แถมยังมีคุณสมบัติที่ช่วยเพิ่มการสร้างกรดไฮยาลูรอนิก ให้ผิวเก็บกักความชุ่มชื้นเอาไว้ได้อีกด้วย 

คอลลาเจนไดเปปไทด์ (Collagen Dipeptide)

คอลลาเจนไดเปปไทด์ พบเจอได้บ่อยในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคอลลาเจน เนื่องจากเป็นนวัตกรรมการสกัดคอลลาเจนให้มาอยู่ในรูปแบบของไดเปปไทด์ ที่มีกรดอะมิโนเป็นโครงสร้างหลักแค่ 2 ตัวเท่านั้น เพราะแบบนี้จึงทำให้คอลลาเจนชนิดนี้มีขนาดเล็กมาก เฉลี่ยได้แค่ 200 ดานตัล ทำให้ไม่ต้องถูกย่อยในกระเพาะอาหาร แต่สามารถลำเลียงและดูดซึมที่ลำไส้เล็กได้ทันที อีกทั้งยังจะช่วยบำรุงเซลล์ผิวหนัง เซลล์กระดูก และเซลล์กระดูกอ่อนได้โดยไม่ต้องรอการย่อย

คอลลาเจนไตรเปปไทด์ (Collagen Tripeptide)

หนึ่งในชนิดของคอลลาเจนที่ได้ยินผ่านหูอยู่บ่อย ๆ ทำให้หลายคนสงสัยว่าคอลลาเจนไตรเปปไทด์ (Collagen Tripeptide) สามารถช่วยอะไรได้บ้าง  

คอลลาเจนไตรเปปไทด์ เป็นคอลลาเจนที่มีขนาดเล็กกว่าคอลลาเจนทั่ว ๆ ไป ด้วยคุณสมบัติที่มีความโดดเด่นเช่นนี้ จึงได้กลายเป็นคอลลาเจนที่มีคุณสมบัติด้านการดูดซึมที่พิเศษเหนือจากคอลลาเจนประเภทอื่น ๆ ซึ่งจากผลการทดสอบพบว่า คอลลาเจนไตรเปปไทด์สามารถช่วยให้ร่างกายดูดซึมได้ดีกว่าคอลลาเจนทั่ว ๆ ไปถึง 3 เท่า! และแน่นอนว่า เมื่อร่างกายคนของเราดูดซึมคอลลาเจนได้ดี ร่างกายก็จะได้รับประโยชน์จากคอลลาเจนไปได้อย่างเต็มประสิทธิภาพนั่นเอง

Boom Collagen Plus ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมคอลลาเจนรูปแบบผง ดูดซึมง่าย

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคอลลาเจน Boom Collagen Plus ที่สกัดคอลลาเจนไดเปปไทด์และไตรเปปไทด์ไว้ด้วยกัน พร้อมสารสกัดที่เข้มข้นและมีประโยชน์อีกกว่า 36 ชนิด มาอยู่ในรูปแบบผงบรรจุซอง ชงสะดวก ดื่มง่าย ช่วยให้ร่างกายดูดซึมได้ไว ใครที่อยากให้ร่างกายได้รับประโยชน์จากคอลลาเจนแบบเต็ม ๆ ต้องไม่พลาด!